รีวิว LG G6 กับความสวยงามภายใต้หน้าจอเกือบไร้ขอบ FullVision

Discussion in 'เทคโนโลยี' started by iPokz, Sep 6, 2017.

  1. iPokz

    iPokz ~" iPokz "~ Staff Member

    หลัง LG G5 เรือธงปีที่แล้วไม่ประสบความสำเร็จตามที่หวังไว้กับโทรศัพท์แบบโมดูลาร์ ปีนี้ LG ขอแก้ตัวใหม่กับ LG G6 ที่หันกลับมาทำโทรศัพท์ในแบบดั้งเดิม แต่ปรับปรุงดีไซน์ใหม่ ให้มีความบาง พร้อมหน้าจอแบบใหม่ที่ LG เรียกว่า FullVision ทำให้ขอบหน้าจอของ LG G6 บางมาก และสามารถขยายขนาดหน้าจอให้ใหญ่ถึง 5.7 นิ้ว ภายใต้บอดี้เพียง 5.2 นิ้ว

    [​IMG]

    สเปค

    • หน้าจอ LCD แพแนล IPS ขนาด 5.7 นิ้ว ความละเอียด 1440x2880 ครอบทับด้วย Gorilla Glass 3 รองรับการแสดงผล HDR10 และ Dolby Vision
    • ชิปเซ็ต Snapdragon 821
    • แรม 4GB ความจุ 64GB รองรับ microSD สูงสุด 2TB
    • กล้องหลังกล้องคู่ 13 ล้านพิกเซลทั้งคู่ กล้องหลักรูรับแสง f/1.8, PDAF, OIS กล้องรอง f/2.4 ไม่มีออโต้โฟกัส กล้องหน้า 5 ล้านพิกเซล f/2.2
    • แบตเตอรี่ Li-Po 3,300 mAh รองรับ Quick Charge 3.0
    • พอร์ท USB-C 3.1, Wi-Fi 802.11 a/b/g/n/ac
    • แอนดรอยด์ 7.0 ครอบทับด้วย LG UX 6.0
    • กันน้ำกันฝุ่นตามมาตรฐาน IP68 กันน้ำได้สูงสุด 1.5 เมตรนาน 30 นาที

    [​IMG]

    ตัวเครื่อง


    ความโดดเด่นที่เห็นได้ชัดที่สุดของ LG G6 คือหน้าจอ FullVision ขนาด 5.7 นิ้ว ที่กินพื้นที่เกือบ 80% ของตัวเครื่อง ทำให้พื้นที่ในการแสดงผลเพิ่มมากขึ้น พร้อมสัดส่วนของจอแบบ 2:1 ที่เหมาะกับการชมภาพยนตร์

    LG G6 ยังรองรับมาตรฐาน HDR10 และเป็นสมาร์ทโฟนตัวแรกที่รองรับมาตรฐาน Dolby Vision ซึ่งเป็นมาตรฐานการแสดงผล HDR ของ Dolby Laboratories ที่ทำออกมาแข่งกับ HDR10 โดยมีค่าความสว่างสูงสุดและความลึกของสีตามสเปคที่มากกว่า HDR10

    สมาชิก Netflix หรือ Amazon Prime Video แพ็คเกจระดับสูงๆ จะสามารถชมภาพยนต์ที่รองรับมาตรฐาน HDR10 และ Dolby Vision ได้อย่างเต็มที่บน LG G6

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    ด้านข้างของตัวเครื่อง อย่างที่เกริ่นไปแล้วว่า LG ออกแบบใหม่ ทำให้ LG G6 มีความบางและสวยงามมากยิ่งขึ้น แถมเป็นดีไซน์แบบ Unibody ไร้รอยต่อ ซึ่งด้วยขนาดของตัวเครื่อง น้ำหนักและความบางนี้ ถือว่ากำลังพอดีเมื่ออยู่ในมือ ไม่ให้ความรู้สึกว่ามือถือจะหลุดหรือหล่นจากมือใดๆ ทั้งสิ้น

    [​IMG]

    [​IMG]

    ด้านล่างเป็นพอร์ท USB-C ที่รองรับ Quick Charge 3.0 ซึ่งหัวชาร์จที่แถมมาให้ในกล่องก็รองรับเทคโนโลยีชาร์จเร็วนี้ด้วย ส่วนด้านข้างเป็นลำโพง ซึ่ง LG G6 มาพร้อมกับระบบเสียงแบบ Quad DAC ช่วยลดความเพี้ยนของสัญญาณ (นอยซ์) ลง ช่วยให้เสียงชัดขึ้นราว 50%

    [​IMG]

    [​IMG]

    ด้านหลังเป็นกล้องคู่ และปุ่มล็อคหน้าจอซึ่งเป็นเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือในตัว

    [​IMG]

    กล้อง


    จุดเด่นของกล้องบน LG G6 คือกล้องเลนส์ไวด์กว้างถึง 125 องศา ช่วยเพิ่มมิติและองศาในการถ่ายภาพได้ง่ายๆ โดย UI บนตัวกล้องจะมีให้กดเลือกได้เลยว่าจะถ่ายภาพจากมุมกว้างหรือมุมแคบโดยไม่ต้องซูม ซึ่งฟังก์ชันนี้รองรับทั้งกล้องหน้ากล้องหลัง ทำให้ในเคสของกล้องหน้า สามารถถ่ายได้ทั้งเซลฟี่เดี่ยวและกลุ่มสบายๆ

    [​IMG]

    [​IMG]

    (บน) ภาพมุมแคบ, (ล่าง)ภาพมุมกว้าง

    แอปกล้องยังมาพร้อมกับฟีเจอร์ Square Mode สำหรับการถ่ายภาพแบบสี่เหลี่ยมจตุรัสลักษณะเดียวกับการถ่ายลง Instagram ในสมัยก่อน ซึ่ง Square Mode ก็จะมีโหมดย่อยลงไปให้เลือกอีกได้แก่

    • Snapshot: ถ่ายและดูภาพที่ถ่ายในจอเดียวกันในอัตราส่วน 1:1
    • Grid Shot: ถ่ายหลายภาพและรวมไว้ในภาพเดียวแบบตัดแปะ
    • Guide Shot: แอปจะมีแบบ (model) ต่างๆ มาให้แบบจางๆ สำหรับการวางภาพซ้อน เพื่อเป็นตัวอย่างก่อนถ่าย
    • Match Shot: เป็นการถ่ายภาพจากทั้งกล้องหน้าและกล้องหลัง และสามารถนำมารวมเป็นภาพใหม่ภาพเดียว เพื่อเป็นการเพิ่มลูกเล่นของภาพ

    [​IMG]

    ส่วนคุณภาพกล้องหลังโดยรวมดีน่าพอใจ โดยเฉพาะในที่แสงเยอะๆ ไวท์บาลานซ์ค่อนข้างดี สีสดคมชัด อย่างไรก็ตามในพื้นที่แสงน้อยหรือในร่ม อาจมีปัญหานอยซ์หรือการเก็บรายละเอียดบ้างประปราย แต่โดยรวมยังถือว่าน่าพอใจ ซึ่งกล้องของ LG G6 ได้รับคะแนนจาก DxOMark สูงถึง 84 คะแนน

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    ประสบการณ์การใช้งาน


    สิ่งที่น่าประทับใจที่สุดบน LG G6 คงหนีไม่พ้นดีไซน์ที่บางแต่โฉบเฉี่ยว ถือกระชับมือ ไม่ใหญ่ไปไม่เล็กไปและไม่หล่นง่าย ประกอบกับหน้าจอ FullVision ที่ให้ความรู้สึกในการใช้งาน ไม่ว่าจะแชท เล่นโซเชียล หรือดูหนังฟังเพลงได้อย่างเต็มอารมณ์

    [​IMG]

    ส่วนเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือด้านหลังตอบสนองค่อนข้างเร็วและแม่นยำ โฮมเซ็นเซอร์จะเป็นปุ่มล็อคหน้าจอไปในตัวด้วย แต่ด้วยความที่ LG รองรับ gesture อย่างการเคาะหน้าจอ 2 ครั้งที่หน้าโฮมเพื่อล็อคจอ ทำให้ปุ่มด้านหลังแทบไม่ได้ใช้งานเลย

    [​IMG]

    ส่วนแบตเตอรี่ที่ให้มามากถึง 3,300 mAh ถือว่าเพียงพอต่อการใช้งานในหนึ่งวันแบบเหลือๆ ขณะที่ระบบชาร์จก็รองรับ Quick Charge 3.0 ที่ใช้เวลาชาร์จราวๆ 2 ชั่วโมงเท่านั้น ไม่รวมการชาร์จเพียง 20-30 นาที ก็จะได้แบตเตอรี่กลับคืนมาราวๆ 30-40% แล้ว

    สรุป


    ถือเป็นการแก้ตัวจาก LG G5 ที่ทำได้ค่อนข้างดี สำหรับ LG G6 ไม่ว่าจะเรื่องดีไซน์และขนาด โดยเฉพาะหน้าจอ FullVision ขนาด 5.7 นิ้วบนบอดี้ 5.2 นิ้ว ความละเอียดถึง QHD ที่ช่วยเพิ่มประสบการณ์ใช้งาน LG G6 ได้ค่อนข้างมาก ขณะที่กล้องหลังก็ถือว่าดีไม่แพ้เรือธงรุ่นอื่นๆ โดยเฉพาะคอนทราสต์ที่สดและไวท์บาลานซ์ที่เป็นธรรมชาติ

    LG G6 วางจำหน่ายแล้วในราคา 24,900 บาท แถม LG ยังออกโปรโมชั่นซื้อช่วงนี้แถมทีวี LED ขนาด 43" รุ่น 43LJ500T มูลค่า 13,900 บาทด้วย หากสนใจสามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่นี่

    [​IMG]

    Topics: LG G6LGMobileReview
     

Share This Page