"ก้องเกียรติ"มองกำไรบจ.ไทยปีนี้ไม่โต ชี้เห็นกระแสควบรวมไม่ปกติบริษัทฐานะการเงินไม่มั่งคงฉวยควบรวมเข้าตลาดหุ้น กระแสการควบรวมกิจการในตลาดหุ้นไทยรอบปี 2557 คึกคักต่อเนื่อง แต่มีบางรายการที่รูปแบบการควบรวมแตกต่างจากในอดีต นายก้องเกียรติ โอภาสวงการ ประธานกรรมการบริหาร บริษัทหลักทรัพย์ เอเชีย พลัส เปิดเผยว่าการเข้าทำรายการควบรวมกิจการนั้น ต้องดูในรายละเอียดมากขึ้น เพราะปัจจุบันเริ่มมีลักษณะที่แปลกออกไป เช่น บริษัทที่มีขนาดเล็กไปซื้อบริษัทที่มีขนาดใหญ่ หรือบริษัทที่มีระดับ พี/อี สูง แสดงถึงฐานะการเงินที่ไม่มั่นคงซื้อ บริษัทที่มี พี/อี ต่ำกว่า ซึ่งรูปแบบนี้ไม่เคยเกิดขึ้นในอดีต อย่างไรก็ตาม ภาวะการเข้าซื้อกิจการหรือธุรกิจด้านวานิชธนกิจที่เพิ่มขึ้นส่วนหนึ่งเกิดจากเม็ดเงินที่มีอยู่เต็มระบบ ดอกเบี้ยอยู่ในระดับต่ำและการเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนในระยะสั้น ทำให้มีการควบรวมกิจการมากขึ้น ทำให้บริษัทต้องเตรียมการรองรับการเติบโตในอนาคต ซึ่งลักษณะนี้เป็นรูปแบบของการตีฟองสบู่ แต่ยังไม่น่าห่วง เพราะทุกคนยังมีประสบการณ์วิกฤติเศรษฐกิจในอดีตทำให้น่าจะรับมืออยู่ได้ อย่างไรก็ตามในส่วนที่น่าสังเกตในตลาดหุ้นไทยปัจจุบันจะเห็นการเติบโตของธุรกิจด้านวานิชธนกิจมากขึ้น โดยเฉพาะการควบรวมกิจการที่มีมากขึ้น โดยเฉพาะในกลุ่มธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ เป็นผลมาจากการพัฒนาโครงการด้านอสังหาริมทรัพย์ที่มีออกมาค่อนข้างสูง ทำให้หลายบริษัทที่อยู่นอกตลาดหลักทรัพย์ต้องการเข้าถึงแหล่งเงินทุน หากจะนำหุ้นเข้ามาจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ โดยตรงอาจต้องใช้เวลาที่จะให้ผลการดำเนินงานเข้าหลักเกณฑ์ที่ตั้งไว้อาจไม่ทันเวลาการใช้เงินทุน และหากเข้าจดทะเบียนด้วยเกณฑ์มาร์เก็ตแคป ก็หาบริษัทปรึกษาทางการเงินค่อนข้างยาก จึงต้องใช้ทางลัดด้วยการเข้าซื้อกิจการบริษัทอสังหาริมทรัพย์ขนาดเล็กที่จดทะเบียนอยู่ในตลาดหลักทรัพย์เพื่อเป็นช่องลัดในการระดมทุน ส่วนภาพรวมความสามารถการทำกำไรของบริษัทจดทะเบียนไทยนั้น ประเมินว่า การเติบโตของกำไรสุทธิของบริษัทจดทะเบียนปี 2557 คาดว่าจะเติบโตเพียง 1 % เท่านั้น ปรับลดลงจากก่อนหน้านี้ที่คาดว่าเติบโต 12% โดยการคาดการณ์กำไรสุทธิที่ปรับลดลงในครั้งนี้ เกิดหลังจากผลการดำเนินงานใน 9 เดือน ที่ผ่านมาต่ำกว่าที่คาดมาก "ผลการดำเนินงาน 9 เดือนที่ผ่านมาในทุกกลุ่มอุตสาหกรรมถือว่าต่ำกว่าที่ประเมินไว้มาก ทำให้ต้องปรับลดการเติบโตของกำไรสุทธิปีนี้เพียง 1 % หรือไม่เติบโตจากปีก่อนและเราหวังว่ากำไรสุทธิของบริษัทจดทะเบียนในปีนี้จะไม่ลดลงเมื่อเทียบกับปีก่อน และด้วยฐานที่ไม่เติบโตในปีนี้จะช่วยให้กำไรสุทธิใน ปี 2558 กลับมาดีขึ้นอีกครั้ง" ทั้งนี้ ตลาดหุ้นไทยในปัจจุบันถือว่ามีระดับราคาที่ไม่ถูก โดยระดับราคาปิดกำไรต่อหุ้น (พี/อี) ของหุ้นขนาดใหญ่อยู่ที่ 16 เท่าในช่วงปลายปี 2558 แสดงให้เห็นถึงการเต็มมูลค่าการซื้อขาย ส่วนระดับ พี/อี ปัจจุบันของหุ้นกลุ่มเซ็ท 50 อยู่ที่ 18 เท่า ส่วนหุ้นขนาดเล็กมีการเก็งกำไรที่สูงมาก ดังนั้นการลงทุนของนักลงทุนควรจะกระจายความเสี่ยงและระมัดระวังการลงทุนมากขึ้นกว่าเดิม ส่วนปี 2558 การเติบโตของกำไรสุทธิของบริษัทจดทะเบียนจะเติบโต 12 - 15 % ส่งผลให้ พี/อี ของกลุ่มหุ้นเซ็ท 50 เหลือ 14 เท่า ซึ่งระดับดังกล่าวแม้ราคาหุ้นไทยอาจจะถูกลง แต่ยังถือว่าแพงกว่าที่ควรจะเป็นทำให้ตลาดหุ้นไทยอาจไม่น่าสนใจเมื่อเทียบกับต่างประเทศ โดยกลุ่มประเทศที่น่าสนใจคือ ประเทศจีน ที่ตลาดหุ้นซบเซามาเป็นเวลามากกว่า 7 ปี ตลาดหุ้นยุโรปที่มีระดับราคาถูก รวมถึงตลาดหุ้นญี่ปุ่นที่เริ่มฟื้นตัว นางเกศรา มัญชุศรี กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เปิดเผยว่ารางวัล SET Awards 2014 ผู้บริหารสูงสุดของ บจ. ใน ตลท. และตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) ได้รับรางวัล Best CEO Awards ประจำปี 2557 ได้แก่นายก้องเกียรติ โอภาสวงการ ประธานกรรมการบริหาร บริษัทหลักทรัพย์ เอเซีย พลัส (ASP) และนายพิเชษฐ์ วิริยะจิตรา ประธานกรรมการบริหาร และกรรมการผู้จัดการ บริษัทเอเชียน ไฟย์โตซูติคอลส์ (APCO) ซึ่งเป็นผู้บริหารที่มีความเป็นเลิศ ทั้งนี้ การมอบรางวัลในปีนี้ มี บจ. ที่ได้รับรางวัลรวมทั้งสิ้น 43 บริษัท 51 รางวัล โดยมีบริษัทที่ได้รับรางวัล SET Award of Honor หรือรางวัลเกียรติยศแห่งความสำเร็จที่มอบให้ผู้ที่สามารถรักษาความโดดเด่นในด้านต่างๆ อย่างต่อเนื่องตั้งแต่ 3 ปีขึ้นไป จำนวน 19 รางวัล จาก 4 ประเภทรางวัล คือ รางวัลด้านการรายงานบรรษัทภิบาล รางวัลด้านความรับผิดชอบต่อสังคม รางวัลด้านนักลงทุนสัมพันธ์ และรางวัลด้านการให้บริการหลักทรัพย์แก่นักลงทุนบุคคล และในจำนวนนี้มีถึง 3 บริษัทที่มีความเป็นเลิศต่อเนื่องเป็นปีที่ 7 โดยได้รับรางวัล SET Award of Honor มาทุกปีนับตั้งแต่เริ่มมีการให้รางวัลนี้ ได้แก่ บริษัท บางจากปิโตรเลียม และธนาคารกสิกรไทย ได้รับรางวัลด้านการรายงานบรรษัทภิบาล บริษัท บางจากปิโตรเลียม และ บริษัท ปูนซิเมนต์ไทย ได้รับรางวัลด้านความรับผิดชอบต่อสังคม สะท้อนถึงการที่ บจ. ไทยมีความโดดเด่นและเติบโตอย่างต่อเนื่องขึ้นทุกปี ซึ่งเป็นพัฒนาการสำคัญที่จะสร้างความเข้มแข็งและผลักดันให้ตลาดทุนไทยมุ่งไปสู่การเติบโตที่ยั่งยืน Tags : ก้องเกียรติ โอภาสวงการ • ควบรวมกิจการ • ตลาดหุ้น • กำไรบจ.