รีวิวการสั่งซื้อโน้ตบุ๊กแบบเลือกปรับสเปกเองจากเว็บไซต์ Lenovo ประเทศไทย

หัวข้อกระทู้ ใน 'เทคโนโลยี' เริ่มโพสต์โดย iPokz, 5 พฤศจิกายน 2019.

  1. iPokz

    iPokz ~" iPokz "~ Staff Member

    เมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา Lenovo ประเทศไทยได้เปิดร้านออนไลน์ของตัวเองเพื่อเพิ่มช่องทางการขายคอมพิวเตอร์จากเดิมที่ต้องซื้อผ่านหน้าร้านของตัวแทนจำหน่าย หรือหากเป็นกลุ่ม ThinkPad ก็ต้องซื้อผ่านเซลส์ของตัวแทนจำหน่าย

    ในอดีต การสั่งคอมพิวเตอร์สายธุรกิจ เช่น Dell Latitude, HP ProBook, Lenovo ThinkPad ต้องทำผ่านเซลส์ของตัวแทนจำหน่าย เป็นขั้นตอนที่มักกินระยะเวลานานหลายวัน เพราะต้องส่งอีเมลไป แล้วรอเซลส์ทำใบเสนอราคากลับมา หากราคาสูงเกินไปหรือเกิดเปลี่ยนใจก็ต้องขอปรับสเปกกลับไปอีก ซึ่งเป็นอะไรที่ล้าสมัยมากๆ ในยุคนี้ โดยเว็บไซต์ผู้ผลิตแทบทุกยี่ห้ออย่าง Dell, HP และ Lenovo ในต่างประเทศเช่นสหรัฐอเมริกามีให้สั่งปรับสเปกเองมานานมากแล้ว แต่ในประเทศไทยผมเข้าใจว่ามีแต่ Apple ที่ทำได้

    [​IMG]

    เมื่อ Lenovo ประเทศไทยเปิดร้านออนไลน์แบบเลือกปรับแต่งสเปกเครื่องได้เองจึงนับเป็นนิมิตหมายอันดี แต่ต้องบอกก่อนว่าไม่ใช่ทุกรุ่นจะมีให้ปรับแต่ง โดยมีให้เฉพาะกลุ่มคอมพิวเตอร์สำหรับธุรกิจและเกมมิ่งเท่านั้น เช่น ThinkPad, ThinkBook, ThinkStation, ThinkCentre และกลุ่มเกมมิ่งก็คือ Legion

    ส่วนคอมพิวเตอร์รุ่นอื่นๆ ของ Lenovo ที่จับตลาดผู้ใช้ทั่วไปอย่าง Yoga และ IdeaPad นั้นไม่มีให้ปรับสเปกได้เอง มีแต่รุ่นย่อยที่ Lenovo จัดไว้ให้เลือกซื้อเหมือนตามหน้าร้าน

    ที่มาของบทความชิ้นนี้คือผมมีแผนเปลี่ยนโน้ตบุ๊กพอดี ได้มองหาหลายๆ ยี่ห้อมาสักระยะหนึ่ง จนมาจบที่ Lenovo ThinkPad X390 Yoga เลยได้โอกาสสั่งปรับสเปกเอง และนำประสบการณ์มาเล่าสู่กันฟัง เพราะเท่าที่เห็นยังไม่ค่อยมีใครพูดถึง

    Disclaimer: บทความชิ้นนี้ไม่ได้รับการสนับสนุนใดๆ จาก Lenovo ประเทศไทย ทุกอย่างเขียนขึ้นจากประสบการณ์ตรง

    เริ่มแรกก็แน่นอนว่าต้องเข้าไปที่เว็บไซต์ของ Lenovo ประเทศไทย และกดเข้าไปที่รุ่นของคอมพิวเตอร์ที่ต้องการ หากคอมพิวเตอร์รุ่นนั้นมีขายทางออนไลน์และปรับแต่งได้ ปุ่มบนหน้าเว็บจะเขียนว่า "ดูหรือปรับแต่ง" แต่หากรุ่นนั้นไม่มีให้ปรับแต่ง ปุ่มจะเขียนว่า "ดูรุ่นต่างๆ"

    [​IMG]

    [​IMG]

    เมื่อกดปุ่ม "ดูหรือปรับแต่ง" แล้ว หน้าเว็บจะเลื่อนลงมาด้านล่าง โดยจะมีสเปกที่ Lenovo ตั้งไว้เป็นค่าเริ่มต้นพร้อมราคาของสเปกนั้นๆ ให้เราดูเป็นแนวทาง พร้อมระบุว่าจะใช้เวลาผลิตจากโรงงานที่ประเทศจีนและส่งมาถึงมือเรานานแค่ไหน อย่างภาพที่ผมใส่มานี้ระบุว่าใช้เวลา 4 สัปดาห์ แต่ตอนที่ผมสั่งเว็บระบุว่า 3 สัปดาห์ ตัวเลขนี้จึงน่าจะขึ้นอยู่กับจำนวนออเดอร์ในช่วงนั้น

    [​IMG]

    ผมต้องแจ้งผู้อ่านว่าการสั่งผลิตลักษณะนี้จะใช้เวลาประมาณนี้อยู่แล้วแทบทุกยี่ห้อ เช่น HP และ Dell ซึ่งหากสั่งรุ่นที่ไม่ใช่แบบปรับแต่งและมีของในสต็อกอยู่แล้วก็อาจใช้เวลาเพียง 7 วัน

    จากนั้นเมื่อกดปุ่ม "ปรับแต่ง" เว็บไซต์จะพาเราเข้าสู่การเลือกสเปก แบ่งเป็น 4 หมวดหมู่คือ เลือกสเปกเครื่อง > เลือกประกัน > เลือกซอฟต์แวร์เสริม > เลือกอุปกรณ์เสริม

    หน้าเลือกสเปกก็ตรงไปตรงมา แต่ไม่ใช่ว่าทุกรุ่นจะเหมือนกัน เช่น X390 Yoga ไม่มีให้เลือกหน้าจอแบบอื่น แต่หากเป็น X1 Extreme Gen 2 จะเลือกจอ Dolby Vision HDR ได้ ในบทความนี้ผมจะยกตัวอย่างของ X390 Yoga เป็นหลัก ซึ่งมีให้เลือกดังนี้

    • ซีพียู (Intel Core i5/i7)
    • แรม (8/16GB)
    • SSD (128/256/512GB หรือ 1TB)
    • เพิ่มตัวอ่าน NFC ได้
    • เปลี่ยนกล้องเว็บแคมให้มีอินฟราเรด รองรับการสแกนหน้า (Windows Hello)
    • เลือกกำลังไฟของอะแดปเตอร์ Type-C (เพิ่มจาก 45 วัตต์เป็น 65 วัตต์แค่ 10 บาท)
    • เพิ่มการ์ด WWAN สำหรับใส่ซิมใช้อินเทอร์เน็ตได้
    • เลือกอัพเกรดจาก Windows 10 Home เป็น Windows 10 Pro (ไม่มีให้เลือกไม่เอา OS สำหรับคนใช้ลินุกซ์)
    • ซื้อหัวแปลง Type-C เป็น VGA
    • ซื้อหัวแปลง Ethernet จากแบบของ Lenovo เป็นหัว Ethernet แบบปกติ
    • ซื้อ Office 365
    • ซื้อแอนตี้ไวรัสของ McAfee

    [​IMG]

    เท่าที่ผมติดตามมาสักระยะ พบว่าหน้าร้านออนไลน์ของ Lenovo จัดโปรโมชันค่อนข้างบ่อย อย่างของผมซื้อมาตอนมีโปร 10.10 (วันที่ 10 เดือน 10) ได้ลดไปหลายต่อเหมือนกัน และ ณ วันที่ลงบทความนี้ก็เริ่มจัดโปร 11.11 กันแล้ว (ช่วงนี้ยังลดราคาแรม 50% อยู่ด้วย)

    [​IMG]

    เมื่อเลือกสเปกได้แล้วก็กดปุ่ม "ปรับแต่งต่อไป" จะมาถึงหน้าให้เลือกประกัน ซึ่งคอมพิวเตอร์ทุกรุ่นที่ซื้อจากหน้าร้านออนไลน์นี้จะมีประกันพื้นฐาน 1 ปี แบบต้องเอาเข้าศูนย์เอง โดยประกันที่มีให้เลือกซื้อเพิ่มคือแบบ on-site คือมาซ่อมถึงที่ เลือกได้ตั้งแต่ 1-3 ปี

    นอกจากนี้ยังมีประกันแบบดีขึ้นอีกคือ Premier Support จากที่อ่านคือโทรเข้าคอลเซ็นเตอร์เพื่อขอความช่วยเหลือแบบถึงตัวพนักงานเลย ไม่ต้องกดเลขเมนู ไม่ต้องรอคิว โทรได้ตลอด 24 ชั่วโมง ไม่มีวันหยุด รวมถึงจะได้รับการจัดลำดับอะไหล่และการซ่อมอยู่เหนือประกันแบบอื่น แน่นอนว่าการมาซ่อมแบบ on-site ก็รวมอยู่ในประกันแบบนี้ด้วย

    [​IMG]

    ขณะที่เขียนอยู่นี้ ประกัน on-site แบบ 3 ปีลดราคาจาก 19,693 บาท เหลือ 9,846 บาท แต่ตอนที่ผมสั่ง ประกัน Premier Support แบบ 2 ปีลดเหลือ 99 บาทเท่านั้น ซึ่งน่าจะเป็นช่วงเรียกแขก เพราะก่อนหน้านี้การสั่งจากหน้าร้านออนไลน์ไม่สามารถเลือกประกันอะไรได้เลย มีแค่แบบพื้นฐาน 1 ปีเท่านั้น

    หลังเลือกประกันเสร็จ ก็มีให้เลือกซื้ออุปกรณ์เสริมเพิ่ม เช่นเมาส์, docking station หรือเป้แบบต่างๆ และฝั่งขวาของหน้าจอจะแสดงราคาปัจจุบันที่อัพเดตตามการปรับแต่ง พร้อมแสดงส่วนลดให้เห็น

    [​IMG]

    เมื่อพอใจกับสเปกที่เลือกแล้วก็เพิ่มใส่รถเข็นซึ่งหน้านี้จะมีสเปกเครื่องแบบละเอียดให้ดู รวมถึงราคาสุทธิ หากตรวจสอบแล้วถูกต้องตามที่ต้องการก็กดจ่ายเงิน ซึ่งเราสามารถใส่ที่อยู่เป็นภาษาไทยได้ ไม่มีปัญหา

    หลังสั่งซื้อเสร็จก็จะมีอีเมลมายืนยันตามปกติ และเข้าสู่การรอที่ยาวนาน แต่ยังดีที่ Lenovo มีหน้าเว็บให้ติดตามสถานะออเดอร์ เข้าไปที่ Order Visibility Portal แล้วใส่เลขที่ออเดอร์กับอีเมลก็จะเจอไทม์ไลน์แบบหยาบๆ มีเพียง 3 สถานะคือ รับออเดอร์, วันที่คาดว่าจะส่งของ และวันที่คาดว่าจะถึงมือลูกค้า

    [​IMG]

    หากกดปุ่ม Show Details ด้านบนก็จะมีสถานะที่ละเอียดขึ้นอีกนิด คือหลังคอนเฟิร์มออเดอร์แล้วจะเขียนว่า Relesed to manufacturing หรือก็คือเข้าคิวประกอบเครื่องนั่นเอง

    จากประสบการณ์ตรง ผมโดนเว็บนี้หลอกให้ดีใจครั้งหนึ่ง คือวันที่คาดว่าจะส่งของมันเลื่อนเข้ามาถึง 1 สัปดาห์ แต่พอถึงวันนั้นจริงๆ ก็เลื่อนออกไปอีก

    ในที่สุดก็ถึงวันที่มีอัพเดตของจริง คือสถานะขึ้นว่าถูกจัดส่งแล้ว อย่างของผมคือวันที่ 25 ตุลาคม รวม 15 วันสำหรับการต่อคิวผลิต ซึ่งขั้นตอนนี้จะได้อีเมลอีกหนึ่งฉบับว่าสินค้าถูกส่งออกจากโรงงานแล้ว และหน้าเว็บติดตามสถานะจะมีปุ่มเพิ่มขึ้นมาคือ Track Package

    [​IMG]

    เมื่อกด Track ก็เจอหน้าติดตามพัสดุแบบทั่วไป คือรับพัสดุ, พัสดุออกจากประเทศต้นทาง, พัสดุถึงประเทศปลายทาง, ผ่านขั้นตอนศุลกากร, ออกนำส่ง และถึงมือลูกค้า โดย Lenovo ใช้ Kerry เป็นผู้ส่งของ ผู้อ่านคงเห็นว่าในรูปมีระบุ tracking number ซึ่งบอกไว้ตรงนี้เลยว่าเลขดังกล่าวไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับ Kerry เลย เพราะผมลองเอาไปค้นในเว็บ Kerry Logistics ก็ไม่ขึ้น กล่าวคือไม่ได้ช่วยอะไร และเรายังต้องมาดูสถานะในเว็บ Lenovo ต่อไป

    [​IMG]

    หากดูตามรูป ของผมใช้เวลา 2 วันกว่าจะออกจากจีน และมาถึงประเทศไทยในอีกหนึ่งวันให้หลังพร้อมเคลียร์ศุลกากรในวันเดียวกันเลย (แต่เท่าที่จำได้สถานะอัพเดตคนละวัน)

    [​IMG]

    หลังผ่านศุลกากรในวันที่ 28 ตุลาคมแล้ว วันที่ 30 ตุลาคมช่วงเย็นมีอีเมลจาก Kerry-Apex ว่าจะมีของมาส่งโดย Kerry Express ที่เราคุ้นเคยกันดี พร้อมแจ้งเลข tracking number ที่ใช้ได้กับระบบของ Kerry Express

    [​IMG]

    วันรุ่งขึ้นผมก็ได้รับของ เป็นอันจบขั้นตอนทั้งหมด เคสนี้ใช้เวลาตั้งแต่กดสั่งของจนถึงได้รับของทั้งสิ้น 21 วัน หรือ 3 สัปดาห์พอดี ตามที่หน้าเว็บประเมินไว้ตั้งแต่แรก

    ที่เขียนมาทั้งหมดเหมือนจะไม่มีปัญหาอะไร ซึ่งก็จริงหากคุณกดสั่งของแล้วรอรับอย่างเดียว แต่หากต้องการคุยกับฝ่ายบริการลูกค้าของ Lenovo ประเทศไทยแล้วนั่นคือประสบการณ์ที่แย่ทีเดียว

    เริ่มจากก่อนสั่งผมพยายามจะติดต่อฝ่ายบริการลูกค้าเพราะมีข้อสงสัยบางประการ หน้าเว็บแจ้งว่ามีสามช่องทางคือโทรศัพท์, แชท และอีเมล ผมเลือกแชทก่อนและพบว่าระบบแชทหน้าเว็บเข้าขั้นแย่มาก บางทีก็ขึ้นว่าให้ฝากข้อความ แต่บางทีก็ขึ้นให้กดแชทได้ เมื่อกดเริ่มแชทยังไม่ทันคุยรู้เรื่องก็เหมือน session มันตัดไปเฉยๆ ทำให้ต้องไปพยายามเข้าแชทใหม่ สุดท้ายก็ไม่สำเร็จ

    ต่อมาจึงลองโทรศัพท์ แต่สิ่งที่พบคือการรอสายนานมากจนสายตัดไปเอง ลองโทรอยู่หลายครั้งก็ไม่มีคนรับสาย

    ผมจึงต้องเขียนอีเมลไปที่ thcs@lenovo.com สอบถามไป 4 ข้อ เกี่ยวกับเงื่อนไขการรับประกัน แต่ผ่านไปหลายวันก็ไม่ได้รับการตอบกลับใดๆ

    [​IMG]

    ล่าสุดในช่วง 1-2 วันก่อนจะลงบทความนี้ ผมได้ทดลองติดต่อฝ่ายบริการลูกค้าอีกรอบ พบว่ามีการปรับปรุงแล้ว เริ่มแรกคือผมลองใช้ระบบแชทก็สามารถคุยกับพนักงานได้ตามปกติ ต่อมาได้ลองเขียนอีเมลเข้าไปอีกครั้งเพื่อสอบถามเรื่องอื่น ซึ่งฝ่ายบริการลูกค้าตอบอีเมลเร็วมาก แต่เขียนอีเมลได้ห้วนมาก เรียกว่าเราเขียนไปอย่างดี แต่คำตอบคือมาแค่บรรทัดเดียว สั้นๆ ห้วนๆ ไม่มีการขึ้นต้นหรือลงท้ายอีเมลแบบที่ควรจะเป็น

    ผมไม่แน่ใจว่าเดี๋ยวนี้คนยังสนใจเรื่อง format การเขียนอีเมลกันอยู่มากน้อยขนาดไหน แต่ส่วนตัวผมว่าเรื่องนี้เป็นสิ่งสำคัญสำหรับคนทำงานฝ่ายบริการลูกค้า

    สุดท้ายได้ลองโทรศัพท์ ซึ่งเบอร์ที่หน้าเว็บ ณ ตอนนี้เปลี่ยนไปจากเบอร์ที่ผมเคยโทร โดยก่อนหน้านี้ที่ไม่มีคนรับเป็นเบอร์ 1800-012-251 แต่วันนี้เป็นเบอร์ 1800-011-936 โทรเข้าไปกดตามเมนูนิดหน่อยก็มีพนักงานรับสายทันที พูดจาดี (พนักงานแจ้งว่าหากดูราคาหน้าเว็บแล้วโทรมาก็จะลดราคาเพิ่มให้ด้วย เข้าใจว่าเฉพาะช่วงโปรโมชัน 11.11 นะครับ แต่ก็เป็นการตลาดที่แปลกดี)

    สรุป

    การสั่งโน้ตบุ๊กแบบปรับแต่งสเปกเองได้จาก Lenovo ถือว่าตรงตามความคาดหมาย เลือกสเปกได้ค่อนข้างละเอียด ขั้นตอนการสั่งซื้อก็ตรงไปตรงมา

    การติดตามสถานะทำออกมาได้พอใช้ การคาดคะเนวันถูกเปลี่ยนไปมา (ดีใจเก้อ) และเลข tracking ที่ได้มาไม่สามารถนำไปใช้งานที่อื่นได้ ส่วนการผ่านขั้นตอนศุลกากรทำได้รวดเร็ว โดยคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊กไม่ถูกเก็บภาษีนำเข้าอยู่แล้ว เสียเฉพาะภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) 7% ซึ่ง Lenovo ได้รวมไปในราคาที่แสดงหน้าเว็บตั้งแต่แรกแล้ว กล่าวคือเห็นราคาหน้าเว็บเท่าไหร่ก็จ่ายเท่านั้น ไม่ต้องดำเนินการอะไรอีก

    สินค้าที่ได้รับก็เป็นกล่องโน้ตบุ๊กตามปกติ ไม่ได้ซ้อนกล่องอื่นมาเพิ่ม ถูกพันด้วยพลาสติกใสและมีสติกเกอร์ shipping label ติดอยู่จำนวนมาก สภาพกล่องอยู่ในเกณฑ์ดีมาก ไม่มีบุบหรือฉีกขาดแต่อย่างใด

    [​IMG]

    ตัวโน้ตบุ๊กใช้งานได้ปกติไม่มีปัญหาใดๆ รอบเครื่องไม่มีรอยขีดข่วนหรือแตกหัก ตรวจสอบแล้วประกันเริ่มเดินวันที่ 30 ตุลาคม หรือก็คือ 1 วันก่อนผมจะได้รับของ ถือว่าแฟร์ดี ไม่ได้เริ่มนับตั้งแต่ส่งของออกมาจากโรงงาน

    เรื่องราคาสินค้า อันนี้มีโปรโมชันบ่อย หากสนใจรุ่นที่ไม่มีปรับสเปกก็ต้องเทียบราคากับหน้าร้านกันเอาเองว่าหน้าร้านมีโปรโมชันอะไร หรือมี cash back/on-top จากบัตรเครดิตอีกหรือไม่ แต่หากต้องการปรับสเปกก็มีทางเลือกเดียวคือซื้อออนไลน์

    ปัญหาที่พบก็เห็นจะเป็นฝ่ายบริการลูกค้าที่ผมไม่ประทับใจ ตั้งแต่ระบบแชทที่ใช้งานจริงไม่ได้, รอสายคอลเซ็นเตอร์นานมาก และการไม่ตอบอีเมลโดยไม่ทราบสาเหตุ ซึ่งตอนนี้ก็เห็นว่าไม่มีปัญหาเหล่านั้นแล้ว อาจจะเป็นช่วงปรับเปลี่ยนระบบงานแล้วผมโชคร้ายไปเจอประสบการณ์แบบนั้นพอดี ก็หวังว่าหากต่อไปมีเหตุต้องซ่อม ขั้นตอนการโทรเรียกช่างจะไม่มีปัญหาอะไร

    หากมีคำถามอะไรก็คอมเมนต์ไว้ได้ ถ้าตอบได้ก็จะตอบให้ครับ

    Topics: LenovoReview
     

แบ่งปันหน้านี้