รีวิว Fitbit Ionic สมาร์ทวอทช์ตัวแรกจาก Fitbit ฟังก์ชันสุขภาพมีครบ...

หัวข้อกระทู้ ใน 'เทคโนโลยี' เริ่มโพสต์โดย iPokz, 24 มีนาคม 2018.

  1. iPokz

    iPokz ~" iPokz "~ Staff Member

    Fitbit นั้นเป็นผู้ผลิตสายรัดข้อมือที่เน้นจุดขายด้านความเป็นอุปกรณ์สุขภาพ ฟิตเนส มาโดยตลอด เมื่อปีที่แล้ว Fitbit ได้เข้าสู่ตลาดสมาร์ทวอทช์ ด้วยการเปิดตัว Fitbit Ionic ที่นอกจากจะเน้นสุขภาพยังเพิ่มคุณสมบัติใหม่ๆ หลายอย่าง ซึ่งทาง Blognone ก็ได้รับสมาร์ทวอทช์ Fitbit Ionic นี้มาทดสอบ มาดูกันว่าครั้งแรกของ Fitbit ในโลกนาฬิกาอัจฉริยะนี้เป็นอย่างไรบ้าง

    ก่อนอื่นเริ่มด้วย รายละเอียดสเป็กเด่นของ Fitbit Ionic ก่อน ซึ่งมีจุดเด่นหลายอย่าง อาทิ

    • หน้าจอ LCD ความละเอียด 348x250 พิกเซล มีความสว่างเด่นชัด
    • น้ำหนัก 30 กรัม
    • แบตเตอรี่อยู่ได้ราว 4 วัน
    • มี Wi-Fi และ GPS ในตัว
    • เชื่อมต่อกับหูฟังบลูทูธได้ในตัว
    • กันน้ำลึก 50 เมตร

    [​IMG]

    เปิดกล่องดูของกัน


    ค่อนข้างแตกต่างจาก Fitbit รุ่นก่อนๆ หน้า เพราะ Fitbit Ionic นั้นกล่องใหญ่ขึ้นมาพอสมควร อุปกรณ์ที่ให้มาในกล่องประกอบด้วย

    • ตัวสมาร์ทวอทช์ Fitbit Ionic ประกอบพร้อมสายนาฬิกาขนาดใหญ่
    • สายนาฬิกาขนาดเล็ก สำหรับผู้หญิง
    • สายชาร์จ

    [​IMG]

    สายชาร์จของ FitBit Ionic ก็เปลี่ยนรูปอีก คราวนี้เป็นขั้วชาร์จที่ด้านหลังของนาฬิกา เวลาวางก็จะต้องตะแคงหน้าปัดไว้

    [​IMG]

    ยลโฉมกันชัดๆ


    ตัวของนาฬิกาของ Ionic เป็นอะลูมิเนียม มีน้ำหนักเบา ส่วนสายที่ให้มาเป็นพลาสติก มีการล็อก 2 ชั้นเวลาสวมใส่ทำให้รู้สึกแน่นหนาดี หน้าปัดเป็นแบบสี่เหลี่ยมผืนผ้า ซึ่งถือเป็นทรงที่ดู geek พอสมควร (ชวนนึกถึง Casio รุ่นเครื่องคิดเลข) อันนี้ก็อาจจะไม่ถูกใจหลายคน

    [​IMG]

    ปุ่มนาฬิกา มีทั้งหมด 3 ปุ่ม เหมือนกับ Fitbit รุ่นก่อนหน้า ด้านซ้าย 1 ปุ่ม ไว้สำหรับ Back ส่วนอีก 2 ปุ่มด้านขวา สำหรับกดเลือก และสำหรับเรียกคำสั่งลัดต่างๆ

    สิ่งที่เด่นมากเมื่อเริ่มหยิบมาดูคือหน้าจอ ซึ่งสว่างเด่นมาก แม้แต่อยู่กลางแดดก็ยังเห็นชัดเจน เป็นจอ LCD มีความละเอียดดีที่ 348x250 พิกเซล ทัชสกรีน การใช้งานลื่นไหลดี (โดยเฉพาะหลังจากอัพเดตเป็น Fitbit OS 2)

    [​IMG]

    แบตเตอรี่เป็นอีกจุดขายที่เหนือกว่าคู่แข่งอื่นมาก ซึ่ง Fitbit ทำตรงนี้ได้ดีอยู่แล้ว สำหรับ Fitbit Ionic นั้นสามารถใช้งานได้สบายๆ ระดับ 4 วัน เลยทีเดียว

    เริ่มใช้งาน จับเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ต่างๆ


    Fitbit Ionic มีลูกเล่นในการเชื่อมต่อที่เพิ่มขึ้นมาก เริ่มต้นเราก็ดาวน์โหลดแอพ Fitbit มาก่อน เพื่อเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟน ซึ่งมีทั้ง iOS, Android และ Windows การเชื่อมต่อนั้นทำได้ง่าย หลังเชื่อมต่อแล้ว ด่านแรกคือการอัพเดตซอฟต์แวร์ ซึ่ง Ionic เป็น Fitbit ตัวแรกที่ใช้ระบบปฏิบัติการ Fitbit OS (เดาว่าพัฒนาต่อยอดจากตอนซื้อ Pebble) เวอร์ชันล่าสุดเป็นเวอร์ชัน 2 ที่เพิ่งออกมาในช่วงรีวิวพอดี

    Fitbit Ionic สามารถเชื่อมต่อกับ Wi-Fi ได้โดยตรง ทำให้ขั้นตอนการอัพเดตซอฟต์แวร์ไม่ใช้เวลานานมาก

    [​IMG]

    อีกจุดขายคือการที่ตัวสมาร์ทวอทช์เองสามารถเชื่อมต่อกับหูฟังบลูทูธ หรืออุปกรณ์เสียงอื่นๆ ที่เป็นบลูทูธได้เลย โดยเข้าไปที่ Settings ในนาฬิกา แล้วเลือกหัวข้อ Bluetooth ใช้ได้กับทุกหูฟัง ไม่จำกัดว่าต้องเป็นหูฟัง Fitbit Flyer

    เมื่อมีหูฟังแปลว่าเราต้องฟังอะไรสักอย่าง อีกจุดขายของ Fitbit Ionic คือเราสามารถโหลดเพลงใส่เข้าไปในตัวนาฬิกาได้เลย (Fitbit มีพื้นที่ราว 2.5GB ใส่ได้หลายร้อยเพลง) อย่างไรก็ตามการโหลดเพลงเข้าไปค่อนข้างยุ่งยากทีเดียว เพราะบังคับให้ทำผ่านเดสก์ท็อปเท่านั้น โดยดาวน์โหลดโปรแกรม Fitbit มาไว้ในเครื่อง แล้วโปรแกรมจะสแกนหาเพลย์ลิสต์ การโหลดเพลงเข้าไปก็ต้องโหลดไปแบบทั้งเพลย์ลิสต์เท่านั้น

    [​IMG]

    ฟีเจอร์ออกกำลังกาย


    จุดแข็งของ Fitbit คือการชูความเป็นสายรัดข้อมูลเน้นด้านสุขภาพ และ Fitbit ก็จริงจังเรื่องนี้มาตลอด ถึงมาเป็นสมาร์ทวอทช์ Ionic ก็ยังคงเก็บฟีเจอร์ออกกำลังกายมาครบเครื่องมาก โดยมีโปรแกรมออกกำลังกาย ได้แก่ วิ่ง, จักรยาน, ว่ายน้ำ (สามารถใส่ว่ายน้ำได้เลย เพราะกันน้ำ 50 เมตร), วิ่งบนสายพาน, ยกเวธ ฯลฯ มีโหมดโค้ช ที่เป็นการท้าทาย มีการแจ้งเตือนให้เดินทุกชั่วโมง และมีโหมด Relax ที่เป็นการผ่อนคลาย ควบคุมลมหายใจเข้าออก รวมทั้งตัวตรวจจับการนอนหลับที่เก็บข้อมูลออกมาละเอียดมากกว่าเดิม

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    องค์ประกอบของเซ็นเซอร์ที่ใส่มานั้นทำให้การตรวจจับออกมาแม่นยำน่าพึงพอใจมาก โดยมีเซ็นเซอร์จับการเคลื่อนไหวแบบ 3 แกน, ตัววัดระบบชีพจรแบบ optical, ตัววัดระดับความสูง และยังใส่ GPS มาด้วย จากการทดสอบร่วมกับอุปกรณ์จากค่ายอื่น ผลลัพธ์ออกมาใกล้เคียงกัน ทั้งระดับชีพจร, ระยะทาง

    [​IMG]

    Fitbit OS


    Fitbit Ionic เป็นก้าวแรกของ Fitbit สู่การเปลี่ยนจากสายรัดออกกำลังกายสุขภาพ สู่คำว่าสมาร์ทวอทช์ ที่ผ่านมาเราเห็นสมาร์ทวอทช์จากหลายค่าย แต่ก็ยังไม่เห็นภาพที่ชัดเจนนัก ซึ่ง Fitbit OS ก็เป็นเช่นนั้นเหมือนกัน โดยอาศัยรากจาก Pebble OS แยกส่วนที่ผู้ใช้สามารถดาวน์โหลดได้เพิ่มเติมสองส่วนคือ หน้าปัด (Clock Faces) และแอพเสริมทั้งหลาย

    [​IMG]

    ส่วนติดต่อผู้ใช้งานนั้นลื่นไหลดี การปัดราบรื่น โดยเฉพาะหลังจากอัพเดตเป็นเวอร์ชันล่าสุด Fitbit OS 2 แต่การเรียกใช้งานในแอพพื้นฐานอาจจะงงๆ บ้าง เพราะแอพส่วนมากนิยมนำปุ่มกดไปไว้ที่มุมหน้าจอ

    การเพิ่มหน้าปัดนาฬิกาและแอพนั้นต้องทำผ่านแอพ Fitbit เท่านั้น โดยเข้าไปที่หน้าบัญชีเรา เลือก Fitbit Ionic จึงมาถึงตัวเลือกหน้าปัดและแอพ ส่วนของหน้าปัดนั้นมีตัวเลือกพอควร แต่ความท้าทายก็คือหน้าปัดที่ออกแบบโดยนักพัฒนานั้นมีไม่เยอะนัก และสามารถลงได้ทีละหนึ่งแบบเท่านั้น

    สำหรับแอพนั้น มีตัวเลือกอยู่พอประมาณ มีแอพพื้นฐานที่เชื่อมต่อข้อมูลสุขภาพหากันได้อย่าง Strava ส่วนแอพอื่น อาทิ Flipboard, Deezer และแอพเกมอีกหลายตัวให้ลองเล่น ซึ่งดูแล้วทั้งหน้าตาแอพที่ใช้ยาก แถมแอพก็มีจำกัด Fitbit คงต้องออกแรงอีกมากทีเดียวหากจะให้มีแอพหลากหลายกว่านี้

    [​IMG]

    การตั้งค่าแจ้งเตือนจากสมาร์ทโฟนมาหาที่ Fitbit Ionic นั้น ต้องกำหนดเป็นรายแอพไป และแอพนั้นต้องส่งคำเตือนมาอย่างน้อยหนึ่งครั้งก่อนด้วย ตรงนี้ก็เป็นข้อไม่สะดวกในครั้งแรก แต่ตั้งค่าครั้งเดียวก็จบไป

    สุดท้ายซึ่งหลายคนคงอยากทราบ ณ ตอนนี้ที่รีวิว Fitbit Ionic ยังไม่รองรับการแสดงผลภาษาไทย แต่มีผู้แจ้งคำร้องขอฟีเจอร์กับ Fitbit Community ไปแล้ว ซึ่งคงต้องรอกันไปว่าจะมีอัพเดตออกมาเมื่อใด

    [​IMG]

    สรุป


    Fitbit Ionic คือก้าวแรกของ Fitbit ที่มาเป็นสมาร์ทวอทช์เต็มตัว ทำได้มากกว่าแค่ออกกำลังกาย ปรับแต่งหน้าตาได้ตามชอบ ลงแอพเสริมเพิ่มเติมได้ผ่าน Fitbit OS วัสดุการออกแบบสวยและทน อย่างไรก็ตามด้วยราคาจำหน่ายในไทย 11,690 บาท น่าจะทำให้ต้องหยุดคิดอยู่เหมือนกัน เพราะราคานี้ก็เกือบเท่ากับสมาร์ทวอทช์แบรนด์อื่นที่ได้รับความนิยมในตลาดอยู่แล้ว

    ข้อดี

    • แบตเตอรี่อึด อยู่ได้ 4-5 วันสบายๆ
    • คุณสมบัติด้านสุขภาพจัดเต็ม และเซ็นเซอร์การตรวจจับทำได้ดีมาก
    • มี GPS ในตัว เชื่อมต่อ Wi-Fi ได้
    • วัสดุดี ทน กันน้ำได้ สายรัดแข็งแรง
    ข้อเสีย

    • ราคาค่อนข้างสูง และใกล้เคียงกับสมาร์ทวอทช์อื่นที่ได้รับความนิยมอยู่แล้ว
    • Fitbit OS มี UI ที่ยังชวนงงอยู่บ้าง แต่ใช้ไปสักพักจะชิน
    • มีแอพและหน้าปัดให้เลือกน้อย ต้องให้เวลาสะสมกำลัง
    • ยังไม่รองรับภาษาไทย

    [​IMG]

    Topics: Fitbit IonicFitbitReview
     

แบ่งปันหน้านี้